สป.อว. ร่วมกับ MTEC สนับสนุนงบประมาณให้แก่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวันเพื่อดำเนินโครงการพัฒนาสร้าง “เครื่องขึ้นรูปปลอกกระสุนปืน (ช่วงการยืดและตัดความยาว)”

สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในการสนับสนุนงบประมาณ “โครงการพัฒนาสร้างเครื่องขึ้นรูปปลอกกระสุนปืน (ช่วงการยืดและตัดความยาว)”
เพื่อส่งเสริมการพัฒนา วิจัย และสร้างนวัตกรรมในการผลิตเครื่องจักรไว้ใช้ภายในประเทศ โดยฝีมือคนไทย
เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ
                วันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2568 นายจิรวัฒน์ วงษ์สมาน นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ ผู้แทนกองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กปว.) สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ในฐานะหน่วยงานผู้สนับสนุนงบประมาณโครงการสร้างเครื่องจักรต้นแบบด้วยกระบวนการวิศวกรรมเพื่อการสร้างสรรค์คุณค่า เป็นประธานในงานแถลงข่าวความสำเร็จ “โครงการพัฒนาสร้างเครื่องขึ้นรูปปลอกกระสุนปืน (ช่วงการยืดและตัดความยาว)” พร้อมด้วย นายธนาภรณ์ โกราษฎร์ วิศวกรอาวุโส หัวหน้าโครงการสร้างเครื่องจักรต้นแบบฯ ผู้แทนศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในฐานะหน่วยบริหารจัดการโครงการ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.เสถียร ธัญญศรีรัตน์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ให้การต้อนรับและร่วมแถลงข่าว โครงการดังกล่าว ภายในงานประชุมระดมความคิด Brew & Brainstorm: Research & Innovation (ชงไอเดีย สู่งานวิจัยและนวัตกรรม) ณ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

นายจิรวัฒน์ วงษ์สมาน ผู้แทนกองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กปว.) กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของโครงการเป็นการให้ทุนวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติขึ้นภายในประเทศ โดยจะมุ่งเน้นการทำ R&D แบบก้าวกระโดด ด้วยกระบวนการวิศวกรรมย้อนกลับ หรือที่เรียกว่า Reverse Engineering ซึ่งเป็นการนำเครื่องจักรจากต่างประเทศมาถอดแบบ แล้วศึกษากลไก ศึกษาวัสดุที่ใช้ ฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ แล้วนำมาสร้างขึ้นใหม่ให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับของต่างประเทศ โดยในแต่ละปี โครงการจะให้ทุนสนับสนุนในการทำ R&D เครื่องจักร โดยเฉลี่ยประมาณ 10 ทุน/ปี มีเพดานการสนับสนุนทุน ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อทุน โดย สป.อว. ได้รับงบประมาณดำเนินโครงการต่อเนื่องมาทุกปี ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน มีเครื่องต้นแบบที่ถูกพัฒนาขึ้นแล้วกว่า 240 รายการ ทั้งนี้ อว. มีภารกิจในการนำวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ไปใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ชาติ โดย อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เป็น 1 ใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพของกิจกรรมทางทหารของไทย โดยให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา และการยกระดับประสิทธิภาพให้ก้าวทันเทคโนโลยี”

โดยผลงานความสำเร็จดังกล่าวเป็นงานที่พัฒนาขึ้นโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วิฑูรย์ อบรม รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย นวัตกรรม สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ร่วมกับ บริษัท เนแรคอาร์มส อินดัสตรี จำกัด โครงการพัฒนาเครื่องยืด 2-3 และตัดความยาวปลอกกระสุนปืน เป็นการสร้างต้นแบบเครื่องจักร ที่มีระบบอัตโนมัติและพัฒนารูปแบบการผลิตสําหรับกระสุน 5.56 ที่ยังไม่มีโรงงานเอกชนในประเทศไทยที่สามารถผลิตได้มาก่อน ซึ่งถือเป็นการนํานวัตกรรมการผลิตมาเปิดสายการผลิตได้จริง ทําให้เพิ่มจํานวนผลิตภัณฑ์ในตลาดให้เพียงพอต่อความต้องการ และเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการพึ่งพาตนเอง ลดการนําเข้าจากต่างประเทศ ทําให้ประหยัดการใช้เงินตราของประเทศ เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายในลําดับที่ 11

การพัฒนาสร้างเครื่องขึ้นรูปปลอกกระสุนปืน (ช่วงการยืดและตัดความยาว)
                    การพัฒนาสร้างเครื่องขึ้นรูปปลอกกระสุนปืนฯ เป็นการพัฒนาและพื้นฟูสภาพเครื่องจักร (Machine Retrofitting) คือการปรับปรุงเครื่องจักรให้สามารถใช้งานได้ดีขึ้นหรือมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการติดตั้งชิ้นส่วนเพิ่มเติมจากที่บริษัทผู้ผลิตเติมได้ออกแบบไว้ หลังจากที่เป็นเวลานานหรือการทำให้ชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์ที่ไม่สามารถทำงานได้ สามารถกลับมาทำงานได้ดังเดิมตามที่ผู้ผลิตกำหนด โดยการติดตั้ง ซ่อมแชมอุปกรณ์หรือระบบเข้ากับโครงสร้างเดิม ประกอบกับกระบวนการวิศวกรรมย้อนรอย (Reverse Engineering) โดยโครงการสร้างเครื่องขึ้นรูปฯ เป็นการนำเครื่องจักรเก่า “เครื่องตอกหัวสกรู” จากประเทศเยอรมนีมาดันแปลงเป็นเครื่องตีปลอกกระสุน ซึ่งเป็นการพัฒนาเครื่องเพื่อให้สามารถทำงานในหลายขั้นตอนภายในเครื่องเดียว ทำให้ลดขั้นตอนลง เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องโดยการปรับระบบต้นกำลังใหม่ วางระบบการจับยึดแม่พิมพ์ใหม่เพิ่มระบบการป้อนปลอกกระสุน และเพิ่มระบบควบคุมเพื่อทำให้เกิดการทำงานแบบกึ่งอัตโนมัติ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถลดชั้นตอนการทำงานลงเหลือ 16 ขั้นตอน (เดิม 24 ขั้นตอน)

บทบาทของ อว. ต่อการตอบสนองนโยบายรัฐบาล
1. อว. มีการสนับสนุนด้านการผลิตยุทธภัณฑ์และความมั่นคงในยามศึกสงครามอยู่ในกรอบของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) เพื่อตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติและความมั่นคงของประเทศ ดังนี้
    - ทุนวิจัยและพัฒนาด้านความมั่นคงและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ สนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่สามารถใช้ในการพัฒนายุทโธปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องมือ และระบบอาวุธ
      - การพัฒนาเครื่องจักรต้นแบบ (Prototype) หรืออุปกรณ์เฉพาะทางใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเช่น AI หุ่นยนต์ อากาศยานไร้คนขับ (UAV/Drone) ยานยนต์เกราะ และระบบสื่อสารปลอดภัย
      - กิจกรรมถ่ายทอดเทคโนโลยีและสร้างกำลังคนด้าน วทน. เพื่อความมั่นคง การผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านวิศวกรรมการทหาร และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
2. อว. มีบทบาทสำคัญในการบ่มเพาะสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการนวัตกรรมด้านยุทโธปกรณ์โดยใช้กลไกการสนับสนุนที่เชื่อมโยงงานวิจัย นักวิจัย ผู้ประกอบการ และหน่วยงานด้านความมั่นคง เข้าด้วยกัน เพื่อให้เข้าถึงขีดความสามารถของนักวิจัยใน อว. และเข้าถึงองค์ความรู้ ห้องปฏิบัติการ เครื่องมือวิจัย และทีมวิจัยเฉพาะทางของสถาบันวิจัยภายใต้สังกัด อว. และมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งสนับสนุนการจับคู่ (Matching) ระหว่างนักวิจัยกับภาคเอกชน สตาร์ทอัพ ที่ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยุทโธปกรณ์ที่ใช้จริงในประเทศ ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ลำดับที่ 11 ด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยมีศักยภาพ พึ่งพาตนเอง ลดการนำเข้า และพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ

จากผลการทดสอบใช้งานเครื่องขึ้นรูปปลอกกระสุนปืน (ช่วงการยืดและตัดความยาว)
                  พบว่าสามารถใช้งานแทนขั้นตอนการผลิตในแบบเดิม โดยเพิ่มจำนวนผลผลิตจาก 1,200,000 ชิ้น เป็น 2,140,000 ชิ้นต่อเดือน ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าแรงทำงานนอกเวลาและลดปริมาณเครื่องจักรในสายการผลิตเดิมลง จากการประมาณการค่าใช้จ่ายซึ่งประกอบด้วยค่าแรงและค่าพลังงานที่ต้องเพิ่มเครื่องจักรในสายการผลิตเฉลี่ย 84,000 ต่อเดือน

ภาพประกอบ: