อว. พร้อม MTEC ลงพื้นที่ติดตามและทดสอบ "เรือช้อนตักขยะทิ้งริมตลิ่งสำหรับคลองชุมชน" ณ คลองวัดหลักสี่ ซอยวิภาวดี 70 กรุงเทพฯ

เมื่อวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2568 คณะทำงานโครงการสร้างเครื่องจักรต้นแบบด้วยกระบวนการวิศวกรรมเพื่อการสร้างสรรค์คุณค่า ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หน่วยงรับผิดชอบในการพัฒนาสร้างเรือช้อนตักขยะ ด้วยทุนสนับสนุนจากกองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงพื้นที่บริเวณคลองวัดหลักสี่ ซอยวิภาวดี 70 เพื่อติดตามการนำผลงานเรือช้อนตักขยะทิ้งริมตลิ่งสำหรับคลองชุมชน โดยสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ในการเคลียร์ทางน้ำที่ถูกปิดกั้นโดยผักตบชวาตลอดแนวคลองที่มีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จากถนนวิภาวดี สิ้นสุดที่คลองถนน เนื่องจากคลองวัดหลักสี่เป็นคลองระบายน้ำขนาดหน้ากว้างไม่เกิน 10 เมตร เพื่อการเชื่อมต่อการระบายน้ำของพื้นที่หลักจากด้านถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณหน้าวัดหลักสี่ ไปสู่คลองระบายน้ำคลองบางบัว คลองถนน ซึ่งเป็นแนวการระบายน้ำหลักของกรุงเทพมหานครได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการเปิดทางน้ำสำหรับรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกมากขึ้นในช่วงฤดูฝนที่เริ่มต้นขึ้นแล้ว

โดยการออกแบบเรือช้อนตักขยะทิ้งริมตลิ่งเป็นการพัฒนากลไกทุ่นแรงในการช้อนตักขนะด้วยบุ้งกี๋หรือ front loader ที่ส่วนหน้าของเรือ ที่สามารถเกี่ยวและยกกอผักตบชวาได้น้ำหนักต่อครั้งมากกว่า 150 กิโลกรัม ด้วยขนาดเรือที่มีหน้ากว้างเพียง 3 เมตร และยาว 4.8 เมตร ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลต้นกำลัง 14 แรงม้า และยกกอผักตบขึ้นสู่ขอบคลองได้สูงถึง 2.5 เมตร ช่วยทุ่นแรงสำหรับแรงงานกรุงเทพมหานครในการเคลียร์วัชพืชและเปิดร่องน้ำพร้อมรับการระบายน้ำได้ตามแผนการระบายน้ำที่ควบคุมได้ด้วยการเปิดปิดประตูระบายน้ำที่สอดคล้องกันในแต่ละพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร

จากปัญหาการสะสมของผักตบชวาในช่วงน้ำนิ่ง ที่นอกจากเป็นการปิดทางน้ำ การทับถมของผักตบชวายังทำให้คลองตื้นเขิน ปริมาณผักตบชวาตลอดแนวคลองประเมินได้ประมาณ 500 ตัน ซึ่งจากการทำงานของกรุงเทพมหานครและเรือช้อนตักขยะทิ้งริมตลิ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถตักเก็บกอผักตบชวาขึ้นจากคลองแล้วประมาณ 300 ตัน เริ่มจากต้นทางด้านถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งยังเหลือปริมาณผักตบที่จะต้องเร่งดำเนินการช้อนตักออกจากคลองในส่วนท้ายคลองอีกจำนวนหนึ่ง คาดว่าจะดำเนินการต่อเนื่องจนแล้วเสร็จได้ภายในอีกม่เกิน 1 สัปดาห์

พร้อมกันนี้ ผู้แทนโครงการสร้างเครื่องจักรต้นแบบด้วยกระบวนการวิศวกรรมเพื่อการสร้างสรรค์คุณค่า ยังใช้โอกาสนี้เก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมด้านการใช้งาน รูปแบบและอุปสรรคเพื่อหา pain point เพิ่มเติมสำหรับการพัฒนาแก้ไข เพื่อปรับปรุงผลงานจากโครงการให้มีสมรรถนะสูงขึ้น และสามารถนำไปใช้งานที่จะเกิดประโยชน์กับภาคส่วนต่าง ๆ ในภาพของการนำผลงานวิจัยและพัฒนาจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปขยายผลและต่อยอดได้อย่างเป็นรูปธรรม

ภาพประกอบ: