อว. แถลงความสำเร็จ 7 ผลงานเครื่องจักรต้นแบบจากโครงการ “วิศวกรรมเพื่อการสร้างสรรค์คุณค่า”หนุนความร่วมมือรัฐ-เอกชน ยกระดับเทคโนโลยีเครื่องจักรกลไทยสู่อนาคต

สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ สมาคมเครื่องจักรกลไทย จัดงานแถลงข่าวความสำเร็จของ “โครงการพัฒนาสร้างเครื่องจักรต้นแบบด้วยกระบวนการวิศวกรรมเพื่อการสร้างสรรค์คุณค่า” พร้อมเปิดตัว 7 ผลงานเครื่องจักรต้นแบบ ที่พัฒนาโดยภาคเอกชนไทย ภายใต้การสนับสนุนจากภาครัฐทั้งในด้านเงินทุนและการบริหารจัดการ

ภายในงาน ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. เป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวว่า “โครงการนี้เป็นตัวอย่างของการผลักดันความร่วมมือแบบบูรณาการ ระหว่างหน่วยงานของรัฐกับภาคเอกชนและภาควิชาการ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเครื่องจักรต้นแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง และสามารถนำไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม อันเป็นรากฐานของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมของประเทศไทย”

โครงการฯ ดังกล่าว มุ่งเน้นการบูรณาการองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมขั้นสูง เข้ากับปัญหาและความต้องการจริงของภาคอุตสาหกรรม โดย สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ร่วมกับ MTEC สวทช. ทำหน้าที่ในการสนับสนุนงบประมาณและบริหารจัดการโครงการ ขณะที่ สมาคมเครื่องจักรกลไทย ทำหน้าที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพื่อร่วมกันออกแบบและพัฒนาเครื่องจักรต้นแบบที่ตอบโจทย์เฉพาะทาง

ในปีงบประมาณล่าสุด (พ.ศ.2567) โครงการฯ ได้สนับสนุนการพัฒนาผลงานต้นแบบจำนวน 7 ผลงาน ผ่านทางสมาคมเครื่องจักรกลไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของภาคเอกชนไทยในการร่วมพัฒนาเทคโนโลยีระดับสูง ได้แก่
1. โครงการพัฒนาสร้างเครื่องทำผงสารแต่งกลิ่น โดยความร่วมมือกับ บริษัท ยูโร เบสท์ เทคโนโลยี จำกัด – สำหรับแปรรูปสารแต่งกลิ่นให้เป็นผง เพื่อเพิ่มความคงสภาพของส่วนประกอบสำหรับ
    การปรุงกลิ่นและคุณภาพในกระบวนการผลิตอาหาร
2.โครงการพัฒนาสร้างเครื่องขึ้นรูปขนมปังห่อไส้อัตโนมัติ โดยความร่วมมือกับ บริษัท เอ็นซี เบเกอรี่ อีควิปเม้นท์ จำกัด – เพิ่มความเร็วและความแม่นยำในการผลิตขนมปัง พร้อมลดการพึ่งพา
   แรงงาน
3. โครงการพัฒนาสร้างเครื่องอบหมักที่อุณหภูมิและความชื้นสูง โดยความร่วมมือกับ บริษัท การันตี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด – พัฒนาสำหรับการหมักวัตถุดิบภายใต้การควบคุมสภาพแวดล้อมอย่าง
    แม่นยำ
4. โครงการพัฒนาสร้าง CBOT หุ่นยนต์ถอดยอดข้าวโพดเมล็ดพันธุ์ โดยความร่วมมือกับ บริษัท ที.ซี. เวลดิ้ง ออโตเมชั่น จำกัด – หุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติที่ช่วยลดแรงงานและเพิ่มความแม่นยำใน
    การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด
5. โครงการพัฒนาสร้างเครื่องตัดหญ้าแบบบังคับวิทยุ ชนิดใบตัดแนวตั้ง (ใบวาย) โดยความร่วมมือกับ บริษัท พรเจริญเครื่องจักรกล จำกัด – เหมาะสำหรับพื้นที่ลาดชัน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยใน
    การตัดหญ้า
6. โครงการพัฒนาสร้างแพลตฟอร์มสร้างรายงานความผิดปกติของแผงโซลาร์เซลล์ โดยความร่วมมือกับ บริษัท โดรน เอไอ จำกัด – ใช้ภาพถ่ายทางอากาศและปัญญาประดิษฐ์วิเคราะห์จุด
    บกพร่องบนแผงโซลาร์เซลล์ได้อย่างแม่นยำ
7. โครงการพัฒนาสร้างเครื่องผสมผงแบบเกลียวคู่พร้อมระบบควบคุมอัตโนมัติ โดยความร่วมมือกับ บริษัท มิสซิเบิล เทคโนโลยี จำกัด – สำหรับผสมวัตถุดิบในรูปแบบผงที่ต้องการความสม่ำเสมอ
    สูง เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเคมี

การแถลงข่าวในครั้งนี้นับเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของภาคเอกชนไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงร่วมกับภาครัฐ และเป็นต้นแบบของความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่สามารถขยายผลได้อย่างยั่งยืน

กระทรวง อว. พร้อมเดินหน้าสนับสนุนโครงการในลักษณะนี้ต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทย และขับเคลื่อนประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม อย่างเป็นระบบและยั่งยืน

โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. โครงการพัฒนาสร้างเครื่องทำผงสารแต่งกลิ่น โดย บริษัท ยูโร เบสท์ เทคโนโลยี จำกัด
รายละเอียดผลงานที่พัฒนา/สมรรถนะของผลงาน
ด้วยประสบการณ์และความชำนาญกว่า 40 ปี เราได้สร้างสรรค์และพัฒนาเครื่องแปรรูปอาหาร ยา และสมุนไพรด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง  เครื่องทำผงสารแต่งกลิ่น (Flavoring powder making machine ) ใช้สำหรับแปรรูปวัตถุดิบที่มีลักษณะเป็นของเหลวให้เป็นผงแห้ง โดยการฉีดฝอยของเหลวให้กระจายเป็นละอองฝอยในถังอบลมร้อน เมื่อละอองฝอยได้รับความร้อนก็จะระเหยกลายเป็นผงแห้งใช้ในการผลิต อาหาร ยา เคมีภัณฑ์ และอื่นๆ เช่น นมผง มะนาวผง ขิงผง แป้งผง อาหารเสริม สมุนไพร มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 20 ปี และใช้เทคโนโลยีจากยุโรป แต่มีราคาถูกกว่า และมี yield ที่สูงประมาณ 90 กว่า %

2. โครงการพัฒนาสร้างเครื่องขึ้นรูปขนมปังห่อไส้อัตโนมัติ โดย บริษัท เอ็นซี เบเกอรี่ อีควิปเม้นท์ จำกัด
รายละเอียดผลงานที่พัฒนา/สมรรถนะของผลงาน
ปัจจุบันรูปแบบเครื่องห่อไส้อัตโนมัติสำหรับทำขนมปังไส้ ซาลาเปา หรือขนมเปี๊ยะ บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญและผลิตจำหน่ายในท้องตลาดต่อเนื่องถึง 7 รุ่น ในระยะเวลามากกว่า 15 ปี โดยเน้นการพัฒนาให้เครื่องจักรมีความสามาถทำเน้นเนื้อสัมผัสที่ดี ตรงตามสูตรสำหรับลูกค้าแป้งบาง ไส้เยอะโดยไม่ทำลายรสสัมผัสและใกล้เคียงการผลิตด้วยมือแต่ประหยัดแรงงาน และได้กำลังผลิตที่สูงเดิมใส่ได้เพียงหนึ่งก็เพิ่มส่วนเสริมไส้ที่สองมุ่งเน้นการผลิตสินค้าได้หลากหลาย

โดยชุดเครื่องขึ้นรูปขนมปังห่อไส้อัตโนมัติ ที่พัฒนาขึ้นนี้ เน้นการทำความสะอาด และบำรุงรักษาได้ง่ายใช้เวลาน้อยไม่จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญและใช้อุปกรณ์ยุ่งยากในการทำความสะอาด ด้วยการเพิ่มเทคนิคทางวิศวกรรม จากเดิมที่ออกแบบใช้เฟรมขับข้างแบบ 2 ด้านให้เหลือด้านเดียว มีเครื่องลงแป้งแทนการใช้แรงงานคนในการดึงแป้งเข้าชุดรีดแป้งแต่ละชุดลูกกลิ้ง เป็นการใช้สายพานลำเลียงเข้าอัตโนมัติ เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน สายพานสามารถถอดทำความสะอาดได้ เพื่อให้เป็นเครื่องจักรที่ออกแบบตามแนวคิดที่ถูกสุขลักษณะ (hygienic designed equipment) มุ่งสู่ความปลอดภัยโดยการติดตั้งระบบป้องการหากมีการเปิดฝาครอบ (safety guard) ในขณะเครื่องจักรทำงาน มีฝาครอบป้องกันฝุ่นและการปนเปื้อน สามารถทำความสะอาดและฆ่าเชื้อได้ กลไกการขับเคลื่อนและส่งกำลังถูกออกแบบให้ติดตั้งอยู่บนเฟรมด้านข้างที่มิดชิดและปลอดภัย ไม่มีการฟุ้งกระจายของสารหล่อลื่นออกมาปนเปื้อนสู่บริเวณภายนอก

3. โครงการพัฒนาสร้างเครื่องอบหมักที่อุณหภูมิและความชื้นสูง โดย บริษัท การันตี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
รายละเอียดผลงานที่พัฒนา/สมรรถนะของผลงาน
ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารหมักและแปรรูป เช่น กระเทียมดำ เป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ต้องอาศัยกระบวนการ maillard reaction ซึ่งต้องควบคุมสภาวะอุณหภูมิและความชื้นสูงต่อเนื่องยาวนาน แต่เครื่องอบที่ใช้งานทั่วไปยังเป็นเพียงระดับครัวเรือน ไม่สามารถรองรับการผลิตเชิงอุตสาหกรรมได้

จึงเป็นที่มาของการพัฒนาผลงาน เครื่องอบหมักที่สามารถควบคุมอุณหภูมิ 75–85 °C และความชื้นสัมพัทธ์ 75–90% ได้อย่างแม่นยำ หรือกลุ่มเครื่องมือเพื่อ fermented food process ที่การทำงานในระดับอุณหภูมิ และความชื้อสูง (high temperature/high humidity) เพื่อรองรับการผลิตระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก–กลาง โดยต้นแบบนี้สามารถผลิตกระเทียมดำได้ครั้งละ 30 กิโลกรัม/batch (จากเดิมเพียง 0.5 กิโลกรัม/batch) อีกทั้งยังสามารถประยุกต์ใช้กับเนื้อหมัก ธัญพืช และอาหารหมักอื่น ๆ ได้ ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและแก้ปัญหาสินค้าการเกษตรราคาตกต่ำ

4. โครงการพัฒนาสร้าง CBOT หุ่นยนต์ถอดยอดข้าวโพดเมล็ดพันธุ์ โดย บริษัท ที.ซี.เวลดิ้งออโตเมชั่น จำกัด
รายละเอียดผลงานที่พัฒนา/สมรรถนะของผลงาน
จากการทำการปลูกข้าวโพดเมล็ดพันธุ์จะต้องทำการถอดยอดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการผสมเกสร เพราะถ้ามีการผสมเกสรเกิดขึ้น ข้าวโพดจะมีคุณภาพด้อยลง เนื่องจากเมล็ดจะโป่งพอง และทำให้ข้าวโพดไม่ได้มาตรฐานตามที่ตลาดต้องการ นอกจากนี้การถอดยอดยังช่วยให้สามารถเก็บเกี่ยวได้เร็วขึ้น และยังช่วยให้ผลผลิตข้าวโพดเพิ่มขึ้นด้วย การถอดยอดเป็นเทคนิคสำคัญที่เกษตรกรไม่ควรละเลยเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีและด้วยปัจจุบันที่เครื่องจักรไม่ทันสมัยและเข้าถึงพื้นที่บางส่วนได้ยาก จึงทำให้ยากต่อการทำการเกษตร

การใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย เหมาะสมและเข้าถึงพื้นที่ทำการเกษตรได้ง่าย สามารถทำได้ด้วยเทคโนโลยีข้อมูลการพยากรณ์ผลิตด้วยระบบ AI จะช่วยให้ปัญหาหมดไป โดย "หุ่นยนต์ถอดยอดข้าวโพดเมล็ดพันธุ์" เป็นการปฎิวัติกระบวนการการทำการถอดยอดข้าวโพด เป็นกระบวนการทำที่มีความแม่นยำมากขึ้น เป็นส่วนนึงของการทำ Smart farming ที่เป็นหนึ่งในนโยบายพร้อมส่งเสริมของรัฐบาล

5. โครงการพัฒนาสร้างเครื่องตัดหญ้าแบบบังคับวิทยุ ชนิดใบตัดแนวตั้ง (ใบวาย) โดย บริษัท พรเจริญเครื่องจักรกล จำกัด
รายละเอียดผลงานที่พัฒนา/สมรรถนะของเครื่องตัดหญ้าแบบบังคับวิทยุ ชนิดใบตัดแนวตั้ง(ใบวาย)
ปัจจุบันปัญหาด้านฝุ่นละออง เป็นปัญหาอย่างมาต่อชีวิต พี่น้องประชาขนชาวไทย หนึ่งในต้นเหตุของปัญหาเหล่านี้ คือ การที่เกษตรกรจำนวนมากยังคงใช้วิธีการกำจัดวัชพืช ด้วยวิธีการเผา ทั้งพื้นที่เกษตรกรรม รวมไปถึงพื้นที่ลาดชัน เชิงเขาที่ ใช้เครื่องมือทั่วไปในการกำจัดวัชพืชหล่านั้นได้ยาก ทางบริษัทจำได้มีการวิจัยและพัฒนา เครื่องตัดหญ้าบังคับวิทยุ ชนิดใบตัดแนวตั้งขึ้นมา ด้วยคุณสมบัติพิเศษหลายอย่าง เช่นเครื่องตัดหญ้าสมามารถไต่ขึ้นทางลาดชันได้ สามารถ เข้าถึงสถานที่ ที่อยากลำบาก อาจมีสัตว์มีพิษ ช่วยลดความเสี่ยง อันตราย ต่อผู้ปฏิบัติงาน และ หัวตัดหญ้าใบตัดแนวตั้ง(ใบวาย) ที่เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญ เมื่อใช้งานหัวตัดหญ้า จะสับย่อย วัชพืช ให้มีขนาดเล็กย่อยสลายง่าย ทำให้เกษตรกรไม่จำเป็นต้องมาเผาเศษวัชพืช จึงไม่ก่อให้เกิดการปล่อยแก๊สพิษ รวมถึง PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาอย่างมากในปัจจุบัน

โดยตัวรถตัดหญ้าบังคับวิทยุ สามารถแยกชิ้นส่วนออกจากหัวตัดได้ และสามารถทำหัวใช้งานชนิดใหม่นำมาต่อพวงแทนได้ เช่น ติดหัวพ้นยา ติดหัวแปลงกวาดทำความสะอาดพื้น หรือ หัวใช้งานอื่นๆ ที่เหมาะสมกับประเภทหรือกำลังของรถ ดังนั้น จึงเกิดความคุ้มค่า กับการใช้งานได้หลากหลาย กว่าแค่เพียงงานตัดหญ้า 

6. โครงการพัฒนาสร้างแพลตฟอร์มสร้างรายงาน ความผิดปกติของแผงโซลาร์เซลล์ โดย บริษัท โดรน เอไอ จำกัด
รายละเอียดผลงานที่พัฒนา/สมรรถนะของผลงาน
โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับตรวจสอบและสร้างรายงานความผิดปกติของแผงโซลาร์เซลล์ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลและบำรุงรักษาระบบพลังงานแสงอาทิตย์ให้มีความรวดเร็ว แม่นยำ และลดต้นทุนการดำเนินงาน แพลตฟอร์มถูกออกแบบให้สามารถประมวลผลข้อมูลจากภาพถ่ายเชิงความร้อนของอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ควบคู่กับการเชื่อมโยงตำแหน่งพิกัด GPS และข้อมูลสภาพแวดล้อมจากสถานีตรวจวัดอัตโนมัติ ระบบสามารถตรวจจับจุดที่มีอุณหภูมิผิดปกติ วิเคราะห์ระดับความรุนแรง และแสดงผลผ่านแดชบอร์ดที่ใช้งานง่าย พร้อมทั้งสร้างรายงานอัตโนมัติในรูปแบบดิจิทัลมาตรฐาน

สมรรถนะของแพลตฟอร์มแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการตรวจจับความผิดปกติของแผงโซลาร์เซลล์ด้วยความแม่นยำสูงถึงร้อยละ 92 และช่วยลดเวลาในการประมวลผลข้อมูลได้มากกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับวิธีการตรวจสอบแบบเดิม ทำให้สามารถครอบคลุมพื้นที่ตรวจสอบได้กว้างขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ระบบยังมีโมดูลการประเมินความรุนแรงของปัญหาและการจัดลำดับความสำคัญของงานซ่อมบำรุง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถวางแผนซ่อมเชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์จากการทดสอบภาคสนามในฟาร์มโซลาร์เซลล์หลายขนาดยืนยันว่าแพลตฟอร์มมีความเสถียร ปลอดภัย และสามารถปรับขยายการใช้งานเพื่อรองรับความต้องการในเชิงอุตสาหกรรมได้จริง

7. โครงการพัฒนาเครื่องผสมผงแบบเกลียวคู่พร้อมระบบควบคุมอัตโนมัติ โดย บริษัท มิสซิเบิล เทคโนโลยี จำกัด
รายละเอียดผลงานที่พัฒนา/สมรรถนะของผลงาน
ผลงานเครื่องผลผงแบบเกลียวคู่คือการพัฒนาสร้างเครื่องผสมผงแบบ ที่มีกลไกเกลียวคู่พร้อมระบบควบคุมอัตโนมัติ ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการผสมผงที่มีความหนาแน่นต่ำ ฟู เกาะกันง่าย หรือมีขนาดอนุภาคต่างกัน ซึ่งมักเกิดการแยกชั้นและจุดนิ่งในเครื่องผสมทั่วไป โดยใช้หลักการยก การกวาดของสกรูคู่ภายในถังทรงกรวยให้เกิดการไหลเวียนสามมิติ ขณะที่สกรูวนภายนอกทำหน้าที่ลำเลียงผลิตภัณฑ์ออกสู่ถังพักแล้วหมุนเวียนกลับเข้าสู่ระบบตามโหมดที่ตั้งค่า ช่วยเพิ่มจำนวนรอบการผสมที่มีประสิทธิผล ลดความเหลื่อมของความเข้มข้น และคงคุณภาพความสม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เครื่องรองรับกำลังการผลิตประมาณ 250 กิโลกรัม/ชั่วโมง (ขึ้นกับชนิดผงและการตั้งค่า) โครงสร้างส่วนสัมผัสผลิตภัณฑ์เป็นสแตนเลสเกรดอุตสาหกรรมอาหาร ผิวภายในเรียบ ระบายออกจากถังได้ดี ลดการค้างคาและทำความสะอาดง่าย ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์–เกียร์ควบคุมรอบด้วยอินเวอร์เตอร์ ลดการกระชากและประหยัดพลังงาน ระบบควบคุมใช้ PLC/HMI รองรับการสร้าง recipe ปรับรอบ ทิศทาง และเวลา พร้อมบันทึกประวัติการเดินเครื่องและสัญญาณเตือนความปลอดภัยแบบ interlock/หยุดฉุกเฉิน ผลลัพธ์คือคุณภาพการผสมที่สม่ำเสมอ ลดเวลารอบงาน ลดการสูญเสียวัตถุดิบ และลดภาระพนักงาน ทั้งยังติดตั้งได้ยืดหยุ่นในไลน์ผลิตจริงแบบแบตช์หรือกึ่งต่อเนื่อง เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ลำเลียงบรรจุภัณฑ์ได้สะดวก และเตรียมพอร์ตเพื่อยกระดับสู่การเชื่อมต่อ SCADA/IoT และการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ในอนาคต เหมาะกับอุตสาหกรรมอาหาร อาหารสัตว์ เคมีภัณฑ์ และเครื่องสำอาง ช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าเครื่องจักร เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และสร้างฐานเทคโนโลยีการผลิตภายในประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ภาพประกอบ: