กังหันลมแบบแนวแกนตั้ง เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้า

สามารถติดตั้งได้ทั้งตึกสูงและหลังคาสำนักงาน

สำนักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดงานแถลงข่าว"ความสำเร็จในการสร้างเครื่องกังหันลมแบบแนวแกนตั้ง เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าและเครื่องอัดเชื้อเพลิงแท่งตะเกียบด้วยระบบขับเคลื่อนแบบเกียร์ทดรอบการอัด" เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ บริษัท ไทยแมชชีน โปรดักส์ จำกัด จังหวัดระยอง
โดยเป็นการแถลงข่าวร่วมกันระหว่าง ภาครัฐ (สำนักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี) สถาบันการศึกษา (คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตร) และผู้ประกอบการภาคเอกชน (บริษัท ไทยไดนามิก มาสเตอร์ จำกัด) เพื่อบอกเล่าให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ ความเป็นมาและรายละเอียดในการพัฒนา ตลอดจนประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ สรุปได้ดังนี้
ประเทศไทยมีการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวก่อให้เกิดการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมหลายสาขา มีการจ้างงานเพิ่มมากขึ้นแต่หากอุตสาหกรรมสนับสนุน ภายในประเทศไม่เข้มแข็งเพียงพอที่จะรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องจักรกลที่ใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงนำเข้าจากต่างประเทศ โดยขาดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อทดแทนการนำเข้าอย่างจริงจัง ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ที่มีศักยภาพในการออกแบบและพัฒนาเครื่องจักรกลขึ้นมาเองภายในประเทศ สำนักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี สป.วท. จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาสินค้าเทคโนโลยีเพื่อทดแทนการนำเข้าและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันขึ้น ซึ่งการพัฒนาสร้างกังหันลมแนวแกนตั้งเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เป็นอีกโครงการหนึ่งที่กระทรวง
วิทยาศาสตร์ ฯ ได้เข้าไปสนับสนุนงบประมาณ เพื่อสร้างกังหันลมต้นแบบ โดยมีผู้ลงทุนเครื่องจักรต้นแบบคือ บริษัท ไทยอินโดปาล์ม ออยล์ แฟคทอรี่ จำกัด ผู้ที่รับช่วงไปออกแบบและพัฒนาเครื่องจักรคือ บริษัท ไทยไดนามิก มาสเตอร์ จำกัด ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยกังหันลมดังกล่าวมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ ระบบควบคุมกังหันลม และชุดอุปกรณ์ควบคุมกำลังไฟฟ้าของกังหันลม
อนึ่ง กังหันลมสามารถติดตั้งได้ทั้งตึกสูงและหลังคาสำนักงาน ขณะนี้ได้นำไปทดรองใช้จริงในพื้นที่โรงานบริษัท ไทยแมชชีน โปรดักส์ จำกัด จังหวัดระยอง และจะนำไปใช้งานที่บริษัท ไทยอินโดปาล์ม ออยล์ แฟคเทอรี่ จำกัด จังหวัดกระบี่
ในการแถลงข่าวมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานจากภาครัฐ สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน ผู้ประกอบการและสื่อมวลชนจากหลายแขนง รวม ๘๕ คน

ภาพประกอบ: 

เอกสารแนบ: 

โบรชัวว์